‘แบงก์ชาติ’ชี้เงินดิจิทัลหนุนบริโภคปี 67 โต 4.6% มั่นใจจีดีพีขยายตัวเกิน 4%

วันที่ 11 ต.คคำพูดจาก ฟรี เกมสล็อตทดลองเล่น. นายปิติ ดิษยทัต ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้ต่อเนื่องในปี 67 คาดจะขยายตัว 4.4% รวมผลมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐไปแล้ว โดยเฉพาะเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทที่จะใช้วงเงิน 560,000 ล้านบาท แต่ถ้ารูปแบบเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะรูปแบบไหน ยืนยันเศรษฐกิจปี 67 จะขยายตัวได้มากกว่า 4% แน่นอน และแม้ไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้อยู่แล้ว รวมถึงการทำนโยบายการเงินต้องเอื้อเศรษฐกิจขยายตัวอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ การดำเนินนโยบายการเงินได้ถอนคันเร่ง ทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยอัตราดอกเบี้ยระยะปานกลางคาด 2 ปีข้างหน้า ดอกเบี้ยไทยอยู่ระดับใกล้สมดุล อยู่ระดับไม่เกินจุดสมดุล และยืนยันการดำเนินนโยบายการเงินไม่ได้เป็นตัวฉุดให้เศรษฐกิจต่ำลง ส่วนการส่งผ่านดอกเบี้ยนโยบาย คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะติดตามใกล้ชิด ช่วงที่ผ่านมาใกล้เคียงกับในอดีต มี 60% ถูกส่งผ่านไปธนาคารพาณิชย์ และธนาคารได้แยกแยะธุรกิจขนาดใหญ่และขนาดเล็ก

สำหรับการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารมีการขึ้นรายใหญ่ หรือดอกเบี้ยอ้างอิงเอ็มแอลอาร์ 1.4% และขึ้นดอกเบี้ยอ้างอิงรายย่อย หรือเอ็มอาร์อาร์ 1% ซึ่งการขึ้นดอกเบี้ยในไทยไม่ได้สูงมากนักเมื่อเทียบกับต่างประเทศ เพราะถ้าดูในบางประเทศ ดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้านเพิ่มขึ้นถึง 4%

นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตลาดการเงิน ธปท. กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต มองว่าจากมาตรการดังกล่าว จะมีผลต่อเศรษฐกิจในแง่การบริโภคภาคเอกชนมากกว่า เห็นได้จากตัวเลขประมาณการการบริโภคภาคเอกชนในปี 67 ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 4.6% จาก 2.9%

ขณะที่เศรษฐกิจไทยปีนี้ปี 67 มีทิศทางฟื้นตัว 4.4% จากปีนี้คาดจะขยายตัว 2.8% โดยในปี 67 เศรษฐกิจมีเครื่องยนต์เศรษฐกิจมาพร้อมกันหลายตัว บริโภคเอกชนโต 4.6% ลงทุนคาดปี 67 จะมีโครงการใหญ่ โครงสร้างพื้นฐาน ทำให้เอกชนลงทุนเพิ่มเติม และคาดการส่งออกกลับมาได้บวก 4.2% ปี 67 ส่วนปีนี้ส่งออกติดลบ 1.7% โดยเศรษฐกิจปีนี้ จะโตได้จากอุปสงค์ในประเทศที่โตดีมากกว่าค่าเฉลี่ย 2 เท่าคำพูดจาก ทดลองปั่นสล็อต

นายสักกะภพ กล่าวว่า อุปสงค์ในประเทศเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก และดูการขึ้นดอกเบี้ยที่ผ่านมาเป็นไปตามที่คาด โดยเชื่อว่าอุปสงค์ในประเทศฟื้นตัวได้ดีต่อเนื่อง และภาคท่องเที่ยวฟื้นตัว แม้จะต่ำกว่าคาดเดิม เพราะจีนมาน้อยกว่าคาด ปี 67 ลดลงอีก 5 แสนคน เหลือ 35 ล้านคน แม้มีนักท่องเที่ยวชาติอื่นเข้ามา แต่ไม่ทดแทนจีน

นายภูริชัย รุ่งเจริญกิจกุล ผู้อำนวยการ ฝ่ายนโยบายการเงิน ธปท. กล่าวว่า ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม คือ แรงส่งจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ, ผลกระทบเงินเฟ้อจากนโยบายรัฐอื่นๆ, ความต่อเนื่องการฟื้นตัวของอุปสงค์ต่างประเทศ และความผันผวนในตลาดการเงิน โดยยืนยันดอกเบี้ยนโยบาย 2.5% ไม่ได้รั้งเศรษฐกิจ เพราะมีโมเมนตัมเศรษฐกิจไปได้ ถึงแม้ไม่มีมาตรการกระตุ้นก็ยังไปได้ ซึ่งที่ผ่านมาดอกเบี้ยไทยต่ำ ทำให้สร้างความเสี่ยง ทั้งหนี้ครัวเรือน เก็งกำไรอสังหาฯ ลงทุนสหกรณ์มากเป็นพิเศษ เป็นต้น